26 มกราคม 2566 ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก ต.หาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด นายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจ.ตราด พร้อมส่วนราชการทั้งฝ่ายทหารนาวิกโยธินตราด นำโดย น.อ.สันติ เกษศรีพงศา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจโยธินตราด นายอำเภอคลองใหญ่ นายด่านศุลกากรคลองใหญ่ ผกก.ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตราด และหัวหน้าหน่วยประสานงานชายแดนจังหวัดตราด ร่วมหารือข้าราชการชายแดนกับ น.ส.มิถุนา พราหมณ์เกสร ผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา พร้อมส่วนราชการของจังหวัดเกาะกง ทั้งทหารชายแดน และตำรวจจังหวัดเกาะกง ร่วมจำนวนกว่า 200 คน
การหารือครั้งนี้ เป็นไปตามแนวความคิดของนายชำนาญวิทย์ เตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตราดและฝ่ายเอกชนด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดตราด รวมทั้งฝ่ายทหารนาวิกโยธินตราดได้เสนอแนวคิดที่ต้องการปรับภูมิทัศน์ชายแดนระหว่าง 2 จังหวัด เพื่อส่งเสริมในเรื่องการท่องเที่ยว โดยไม่ต้องมีหน่วยทหารชายแดนมาตั้งในพื้นที่หรือต้องมีลวดหนามขวางกั้นภูมิทัศน์ และให้ประชาชนทั้งสองจังหวัดหรือ 2 ประเทศมาท่องเที่ยวและมาเช็คอินสถานที่ที่ร่วมกันพัฒนาร่วมกัน โดยฝั่งไทยจะปลูกต้นไม้ที่เป็นเสมือนรั้วปิดกั้นรั้วลวดหนามไว้ ซึ่งจะเป็นกระถางวางตามแนวรั้วลวดหนาม
แต่ น.ส.มิถุนา พราหมณ์เกสร กล่าวว่า ต้องเสนอเรื่องดังกล่าวไปยังรัฐบาลเพื่อให้ดำเนินการพิจารณา ซึ่งยังต้องใช้เวลาอีกนาน เพราะต้องรอการสั่งการลงมาในระดับจังหวัด อีกทั้งในการประชุมร่วมระหว่าง 2 ประเทศยังจะต้องหารือในเรื่องเขตแดนอยู่จึงยังไม่สามารถดำเนินการตัดสินใจได้ในขณะนี้
น.อ.สันติ กล่าวว่า ยอมรับว่าทั้งสองประเทศยังไม่ได้ข้อสรุปในเรื่องการปักปันเขตแดนในพื้นที่หลักเขตที่ 72 และ 73 แต่นั่นเป็นเรื่องของความมั่นคง แต่ในเรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยวหรือการพัฒนาความร่วมมือทางด้านเศรษฐกิจนั้นจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ เนื่องจากจะส่งผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม การหารือระหว่างผู้ว่าราชการทั้งสองจังหวัดไม่สามารถหาข้อสรุปในขณะนี้ได้ เนื่องจากปัญหาที่ทั้งสองฝ่ายยังไม่ยอมรับเขตแดนของแต่ละฝ่ายยืนยัน ฝ่ายไทยระบุจุดหนึ่ง ฝ่ายกัมพูชาก็ยึดอีกจุดหนึ่ง ซึ่งข้อตกลงของการปักปันเขตแดนยังไม่สามารถเจรจากันได้ในระดับประเทศ ทำให้การหารือของทั้งสองฝ่ายต้องยุติลง
ขณะที่ นายชำนาญวิทย์ กล่าวว่า เห็นว่าด่านหาดเล็กมีภูมิทัศน์ไม่สวยงาม และการเข้าออกของรถบรรทุกก็ไม่สะดวก จึงเสนอทางฝ่ายทหารนาวิกโยธินตราด ให้รื้อป้อมทหารและขยายประตูหน้าด่านออกไปเพื่อความสะดวกในการเข้าออก ซึ่งวันนี้ได้เนินการเรียบร้อยแล้ว ขณะเดียวกันก็ต้องการจะปรับภูมิทัศน์หน้าด่านด้วยการนำต้นไม้มาปลูกบดบังรั้วลวดหนามและปรับปรุงพื้นที่เพื่อให้สวยงาม และเมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาก็สามารถเช็คอินถ่ายรูปได้ จึงได้มาหารือกับฝั่ง ผวจ.เกาะกง ประเทศกัมพูชา เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายได้นำไปเสนอยังรัฐบาลเพื่อรอคำสั่งการ ซึ่งหากทำได้ก็จะส่งผลดีต่อการค้า การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจที่ดีระหว่าง 2 ประเทศ
สำหรับจุดผ่านแดนถาวรบ้านหาดเล็ก จ.ตราด เป็นด่านชายแดนแห่งเดียวของประเทศที่มีพื้นที่ติดทะเล และมีภูมิทัศน์ที่สวยงาม และมีหลักเขตที่ 73 ตั้งอยู่ระหว่างเขตแดนทั้งสองประเทศ ซึ่งสามารถใช้เป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดตราดได้ และเป็นช่องทางการขนส่งสินค้าระหว่าง 2 ประเทศที่มีมูลค่ามากกว่า 3.4 หมื่นล้านบาท/ปี มีการเดินทางเข้าประเทศของประชาชนทั้งสองประเทศและนักท่องเที่ยวต่างชาติแต่ละปีนับแสนคน/ปี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น